เขียนโดย : ฝ่ายขายสำนักงานใหญ่

สวัสดีค่ะ ทุกท่านคงรู้จักคำว่า สายดิน กัน อย่างที่เราเข้าใจว่า สายดินก็คือสายไฟที่มีไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการใช้ไฟฟ้าที่ปลายด้านหนึ่งต่อลงดิน ส่วนอีกปลายด้านหนึ่งต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว สำหรับในการต่อสายดินของเครื่องใช้ไฟฟ้าจะต้องเดินมารวมกันที่ขั้วต่อสายดินภายในตู้เมนสวิตซ์ ขั้วต่อสายดินต่อเข้ากับเส้นศูนย์(เส้นที่ไม่มีไฟ)ต่อลงดินที่แท่งโลหะที่เรียกว่าหลักดิน

สำหรับการติดตั้งให้เป็นระบบแบบนี้จำเป็นต้องมีการวางแผน การคำนวณ เพื่อใช้ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่มาตรฐานกำหนด ต้องมีการวัดและทดสอบค่าความต้านทานดินก่อนการติดตั้ง เพื่อให้ความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า และเพื่อให้มั่นใจว่าค่าความต้านทานหลักดินนั้นยังมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและปลอดภัย เราควรมีการวัดและทดสอบค่าความต้านทานดินอยู่สม่ำเสมอเช่นกันค่ะ

โดยวิธีวัดและทดสอบค่าความต้านทานดินนั้นมีหลักๆ 2 วิธี ขึ้นอยู่กับระบบกราวด์

1.การวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้หลัก คือการตอกหลักที่เป็นแท่งโลหะขนานไปที่แท่งกราวด์ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดลูปของไฟฟ้า เครื่องทดสอบความต้านทานดินจะปล่อยแรงดันและกระแสคงที่มาค่าหนึ่งไปที่ลูปไฟฟ้านั้น แล้วคำนวณกลับออกมาเป็นค่าความต้านทาน การวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้หลัก สามารถทำได้ทั้งแบบ 2 สาย 3 สาย และ 4 สาย เนื่องจากการวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้หลัก จำเป็นที่ต้องมีการตอกแท่งหลักที่เป็นโลหะลงไปในดิน การทดสอบวิธีนี้จึงเหมาะกับการใช้ออกแบบติดตั้งระบบใหม่มากกว่า

2.การวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้แคลมป์ เหมาะกับการวัดและทดสอบค่าความต้านทานดินในงานซ่อมบำรุง เป็นการตัดขั้นตอนความยุ่งยากในการตอกหลักที่เป็นแท่งโลหะออกไป ทำได้โดยง่ายกว่าเพียงแค่คล้องแคลมป์ไปที่สายกราวด์ โดยใช้วิธีการเหนี่ยวนำและแสดงผลที่หน้าจอ วิธีนี้มีข้อจำกัดคือ ระบบกราวด์ที่ทำการทดสอบจะต้องเป็นระบบกราวด์แบบหลายจุด (มีกราวด์ลูป) ถึงจะทำการทดสอบได้ค่ะ

ตัวอย่างเครื่องมือวัดและทดสอบค่าความต้านทานดิน