สวัสดีครับทุก ๆท่าน วันนี้ผมจะมาพูดถึงหัววัดอุณหภูมิแต่ละชนิด ว่ามีความต้านทานต่างกันอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยครับ
1. NTC (Negative Temperture Coefficient) คือ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิเพิ่ม ค่าความต้านทานจะลด
2. PTC (Positive Temperture Coefficient) คือ อุปกรณวัดอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิเพิ่ม ค่าความต้านทานจะเพิ่ม
3. RTD (Resistant Temperture Detector) คือ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ ค่าความต้านทานจะมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เช่น PT100 จะมีค่า 100Ω ที่ 0°C และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆตามอุณหภูมิ

หัววัดอุณหภูมิประเภทPTC, NTC จะใช้งานคล้าย ๆกัน ที่อุณหภูมิไม่สูงมาก ประมาณ -50 ถึง 150°C ต่อร่วมกับจอแสดงผลหรือเครื่องควบคุมอุณหภูมิ ที่เป็นยี่ห้อเดียวกันกับผู้ผลิตหัววัด PTC, NTC เท่านั้น เพราะว่าส่วนมากแล้วค่าความต้านทานหัววัด กับย่านอุณหภูมิ ผู้ผลิตจะFIXค่าความต้านทานให้หัววัด ที่ต่อกับจอแสดงผลหรือเครื่องควบคุมอุณหภูมิยี่ห้อตัวเอง อ่านค่าและโชว์ค่าอุณหภูมิที่ถูกต้อง แต่บางยี่ห้อ ก็สามารถใช้แทนกันได้

ส่วนหัววัดอุณหภูมิประเภทRTDทั้งหลาย เช่น PT100 ค่าความต้านทาน จะเป็นมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก คือ ที่ 0°c จะมีค่าความต้านทานที่ 100 Ω ย่านการใช้งานประมาณ -50 ถึง 400°C สามารถต่อกับจอแสดงผลหรือเครื่องควบคุมอุณหภูมิที่รับ input เป็นPT100 ได้ทั้งหมด เป็นต้น

SUS 304L กับ SUS 316L อันไหนทนอุณหภูมิได้สูงกว่า
สแตนเลสทั้งสองชนิดนี้ จริง ๆแล้วตามสเปคทนอุณหภูมิเท่ากันครับ แต่ต่างกันที่ SUS 316L จะทนการกัดกร่อนได้มากกว่า

Operating Temp. = อุณหภูมิใช้งานปกติ

Maximum Temp. = อุณหภูมิใช้งานสูงสุด (แต่ถ้าใช้ที่ย่านอุณหภูมินี้ตลอด อายุการใช้งานก็จะสั้นลง)

Meltiing Temp. = จุดหลอมเหลว

หมายเหตุ : ปกติเราใช้ SUS 304L กับ SUS 316L แต่เวลาเขียนรุ่นเขียน 304 กับ 316 ครับ

หัวกะโหลกเล็กและหัวกะโหลกใหญ่ (Big Head)

หัวกะโหลกแบบ Bakelite หัวเล็ก หัวกะโหลกแบบ Bakelite หัวใหญ่

หัวกะโหลกสองแบบนี้ ขนาดจะเหมือนกัน ต่างกันตรงที่วัสดุที่ใช้ทำ ซึ่งจะเลือกใช้แบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับการติดตั้งที่หน้างานและอุณหภูมิที่ใช้งานซึ่งแบบ Bakelite จะทนอุณหภูมิได้สูงกว่า หากมีข้อสงสัยประการใด ติดต่อสอบถามเข้ามาทาง TIC ให้คำปรึกษาแนะนำฟรีครับ